นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)

1. ขอบเขตการบังคับใช้

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ มีผลบังคับใช้กับการปฏิบัติงานของพนักงานทุกคน ซึ่ง หมายถึงพนักงานประจํา พนักงานสัญญาจ้างงานแบบระบุระยะเวลาสิ้นสุดสัญญา พนักงานชั่วคราว และผู้รับเหมา รวมถึงผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในนามบริษัท

2. คํานิยาม

2.1 “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทําให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
2.2 “ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลที่เป็นเรื่องส่วนบุคคลโดยแท้ของบุคคล แต่มีความ ละเอียดอ่อนและอาจสุ่มเสี่ยงในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็น ทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูล สุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใด ซึ่ง กระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทํานองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ประกาศกําหนด
2.3 “การประมวลผล” หมายถึง การดําเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย การลบ หรือการ ทําลายข้อมูลส่วนบุคคล
2.4 “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ข้อมูลส่วนบุคคล สามารถระบุตัวตนของบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
2.5 “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอํานาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
2.6 “ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดําเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคําสั่งหรือในนามของบริษัท ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคล ซึ่ง ดําเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

3. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

3.1 บริษัทจะดําเนินการเก็บรวมรวมข้อมูลส่วนบุคคล โดยมี วัตถุประสงค์ ขอบเขต และใช้วิธีการที่ชอบ ด้วยกฎหมายและเป็นธรรม โดยการเก็บรวบรวมนั้นจะทําเพียงเท่าที่จําเป็นแก่การดําเนินงานภายใต้ วัตถุประสงค์ของบริษัท เท่านั้น
3.2 บริษัทจะดําเนินการให้เจ้าของข้อมูล รับรู้ ให้ความยินยอมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือตามแบบวิธีการของ บริษัท กรณีที่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของเจ้าของข้อมูล บริษัทจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลโดยชัดแจ้งก่อนทําการเก็บรวบรวม เว้นแต่การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคล อ่อนไหวจะเข้าข้อยกเว้นตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือกฎหมายอื่น กําหนดไว้

4. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

4.1 บริษัทจะดําเนินการเก็บรวมรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการ ดําเนินงานของบริษัท หรือเพื่อปรับปรุงคุณภาพในการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และ หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อการดําเนินงานของบริษัท โดยบริษัทจะ จัดเก็บและใช้ข้อมูลดังกล่าวตามระยะเวลาเท่าที่จําเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลหรือ ตามที่กฎหมายกําหนดไว้เท่านั้น
4.2 บริษัทจะไม่กระทําการใดๆ ที่แตกต่างจากที่ระบุในวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม เว้นแต่
(1) ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้แก่เจ้าของข้อมูลทราบและได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล
(2) เป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

5.1 บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปให้บุคคลใดโดยปราศจากความยินยอมและจะ เปิดเผยตามวัตถุประสงค์ที่ได้มีการแจ้งไว้
5.2 บริษัทอาจมีความจําเป็นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลให้แก่บริษัทในเครือหรือ บุคคลอื่นทั้งในและต่างประเทศเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการดําเนินงานของบริษัทและการให้บริการแก่ เจ้าของข้อมูล โดยในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลดังกล่าว บริษัทจะดําเนินการให้บุคคล เหล่านั้นเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับและไม่นําไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจาก ขอบเขตที่บริษัทได้กําหนดไว้
5.3 บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกําหนด เช่น การ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกํากับดูแล รวมถึงในกรณี ที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอํานาจตามกฎหมาย

6. การรักษาความมั ่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

6.1 บริษัทจะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมและ สอดคล้องกับกฎหมาย นโยบาย และแนวปฏิบัติด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่พนักงานของ บริษัทและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง
6.2 บริษัทสนับสนุนและส่งเสริมให้พนักงานมีความรู้และตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบในการเก็บ รวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเพื่อให้บริษัท สามารถปฏิบัติตามนโยบายและกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

7. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

7.1 สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสําเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูล ส่วนบุคคลดังกล่าวที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม
7.2 สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน
7.3 สิทธิขอให้ดําเนินการลบหรือทําลาย หรือทําให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่ เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคล
7.4 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
7.5 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมไว้ ทั้งนี้ การ เพิกถอนความยินยอมย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ ความยินยอมไว้แล้ว
7.6 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
7.7 สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล

8. การทบทวนและเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจทําการปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกําหนดตาม กฎหมาย และการเปลี่ยนแปลงการดําเนินงานของบริษัท รวมถึงข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆ โดย บริษัทจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ทราบ

9. ช่องทางติดต่อกับเรา

ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้ที่ช่องทาง ดังต่อไปนี้
บริษัท พาราไซแอนติฟิค จํากัด
สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 968 อื้อจือเหลียง ชั้น 7 ถ.พระราม 4 สีลม บางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
เบอร์โทรศัพท์: 02-6324300

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 968 อื้อจือเหลียง ชั้น 7 ถ.พระราม 4 สีลม บางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
อีเมล: dpo@barascientific.com


ประกาศ ณ วันที่ 1 เมษายน 2565
ปรับปรุงล่าสุด วันที่ 1 พฤษภาคม 2565